แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 8
1
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ จากการไม่ดูแลความสะอาดในช่องปากระหว่างการจัดฟันเด็ก

การดูแลความสะอาดของช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เพราะเรื่องของปัญหาฟันของเด็ก ถือว่าเป้นเรื่องใหญ่มาก เพราะถ้าเด็กมีฟันผุตั้งแต่ยังเป็นฟันน้ำนม อาจจะทำให้เด็กมีปัญหาสุขภาพฟันตามมาในอนาคต พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะแนะนำหรือสอนเด็กให้รู้จักการแปรงฟันที่ถูกต้อง หรือถ้าหากเด็กมีปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างฟัน ควรพาเด็กมาเข้ามาพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาและเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาเกี่ยวกับฟันตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ตั้งแต่เด็กยังมีฟันผสม แถมยังช่วยแก้ไขในเรื่องของกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้อีกด้วย

แต่ในการเข้ารับการจัดฟัน เด็กจะต้องมีการทำความสะอาดช่องปากและฟันให้สะอาดมากเป็นพิเศษ คอต้องใส่ใจในเรื่องของการทำคววามสะอาดช่องปากและฟันมากกว่าคนทั่วไป เพราะเนื่องจากการจัดฟันในเด็กนั้น มีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก ซึ่งเป็นปัญหาของผู้เข้ารับการจัดฟันหลายคน ดังนั้น หากเราทำความสะอาดช่อปากและฟันไม่สะอาด อาจจะมีปัญหาตามมาภายหลังได้ สำหรับวันนี้คลินิกของเราจะมาพูดถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น จากการที่ไม่ดูแลความสะอาดช่องปากและฟันในระหว่างการเข้ารับการจัดฟัน ซึ่ง เป็นปัญหาที่หลายคนอาจจะมีความกังวลและพ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะมีคำถาม ว่าถ้าหากเด็กแปรงฟันไม่สะอาด จะมีปัญหาใดตามมาและจะร้ายแรวกว่าผู้ที่ไม่เข้ารับการจัดฟันหรือไม่

หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ถ้าหากเราทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ดีเท่าที่ควรอาจจะเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาฟันตามมาได้ เช่นเดียวกันกับผู้เข้ารับการจัดฟัน ไม่ว่าจะเป้ฯเด็กหรือผู้ใหญ่ หากไม่ทำความสะอาดช่องปากและฟันให้ดี ก็ทำให้เกิดปัญหาช่องปสกและฟันตามมาอย่างแน่นอน เนื่องจากเชื้อโรคที่หลงเหลืออยู่บนผิวฟัน ซึ่งที่เราเรียกว่าคราบจุลินทรีย์ที่เกิดจากการย่อยสลายอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล แล้วปล่อยกรดออกมากัดกร่อนฟันจนผุในที่สุด นอกจากนั้นแล้ว เชื้อโรคเหล่านี้ยังทำอันตรายต่อเหงือกและอวัยวะรอบ ๆ ฟัน จนเกิดเหงือกอักเสบ บวมเป็นหนอง ฟันโยก ฟันผุตามมาได้อีกด้วย

เพราะฉะนั้น ปัญหาที่เกิดจากการจัดฟัน อาจเกิดจากการไม่ดูแลความสะอาดในช่องปาก ไม่ดูแลเครื่องมือที่นำเข้าในช่องปาก ก็อาจจะทำให้เกิดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ได้ ทำให้เด็กเสียบุคลิกภาพ ทำให้โดนเพื่อล้อได้ ดังนั้น เด็กที่เข้ารับการจัดฟันใยนเด็กควรที่ทำความสะอาดช่องปากและฟันให้สะอาด เพราะยิ่งเราละเลย ปัญหาที่ตามมาอาจจะทำให้เกิดความรุนแรงได้ และปัญหาก็จะเกิดการร้ายแรงกว่าเด็กที่ไม่ได้รับการจัดฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะหมั่นสังเกตและคอยแนะนำวิธีการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกวิธีให้กับบุตรหลานเพื่อที่เด็กจะได้ทำความสะอาดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการเกิดฟันผุ ลดโอกาสการเกิดคราบหินปูนด้วย เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฟันในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาเด็กเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเบื้องต้น เพื่อประเมินฟันก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพ่อห้เด้กได้มีสุขภพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็กและมีประสบการณ์ด้านการทันตกรรมในเด็กมาอย่างยาวนาน เพื่อที่จะได้ให้คำปรึกษาได้อย่างตรงจุด หากเด็กมีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ทางเราสามารถตรวจและแก้ไขรักษาได้ก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็กเพื่อที่จะได้ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการจัดฟัน เพราะเราอยากให้ทุกคนมีรอยยิ้มที่สดใสสวยงาม มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

2
หมอประจำบ้าน: เลือดกำเดา (Epistaxis/Nose bleed)

เลือดกำเดา (เลือดออกจากจมูก) เกิดจากหลอดเลือดฝอยที่บริเวณเยื่อจมูกมีการแตกทำลาย ทำให้มีเลือดออกจากรูจมูก

ส่วนใหญ่เกิดจากหลอดเลือดฝอยที่ผนังกั้นจมูกด้านหน้าแตก มักมีเลือดออกจากจมูกข้างเดียว อาการมักไม่รุนแรง และเลือดหยุดได้ง่าย ภาวะนี้พบบ่อยในเด็ก

ส่วนน้อยเกิดจากหลอดเลือดฝอยที่ผนังจมูกด้านข้างซึ่งอยู่ลึกไปทางด้านหลังของจมูก (มีขนาดที่ใหญ่กว่าหลอดเลือดฝอยที่ผนังกั้นจมูกด้านหน้า) แตก อาจมีเลือดออกจากจมูก 2 ข้าง และอาจมีเลือดออกมาก ซึ่งจะไหลลงคอและปาก ภาวะนี้พบบ่อยในผู้ใหญ่

เลือดกำเดาส่วนมากมักเกิดอาการขึ้นฉับพลัน บางรายอาจมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย พบได้ในคนทุกวัย พบบ่อยในเด็กเล็ก (อายุ 2-10 ปี) และผู้สูงอายุ (อายุ 50-80 ปี) 

นอกจากนี้ ยังพบได้บ่อยในหญิงตั้งครรภ์ (เนื่องจากหลอดเลือดขยายตัว ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแตกได้ง่าย) ผู้ที่สูบบุหรี่ (เนื่องจากบุหรี่ทำให้ระคายเคืองต่อเยื่อบุจมูก จมูกแห้ง) หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัด (เนื่องจากแอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว และยับยั้งการแข็งตัวของเลือด)

ส่วนมากจะไม่มีอันตรายร้ายแรง และหายได้เอง

สาเหตุ

โดยมากมักไม่มีสาเหตุร้ายแรง ซึ่งจะมีเลือดออกเพียงเล็กน้อยและหยุดได้เอง

สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ การแคะจมูกหรือสั่งน้ำมูกแรง ๆ การเจออากาศแห้งหรือหนาวเย็น หรือนอนในห้องปรับอากาศ การอักเสบของเยื่อจมูก (เช่น ไข้หวัด หวัดภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ เป็นต้น) การอยู่ในที่สูงซึ่งมีความดันบรรยากาศลดลง (เช่น การนั่งเครื่องบิน การอยู่บนภูเขาสูง)

อาจเกิดจากได้รับบาดเจ็บ (เช่น ถูกแรงกระแทกที่ดั้งจมูก) มีสิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก ผนังกั้นจมูกคด ติ่งเนื้อเมือกจมูก การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัด

อาจพบร่วมกับโรคติดเชื้อ (เช่น หัด มาลาเรีย ไข้เลือดออก เป็นต้น) ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง โรคตับเรื้อรัง (มีภาวะเลือดออกง่าย) การใช้ยา (เช่น ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก แก้คัดจมูก)

ผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง บางครั้งก็อาจมีเลือดกำเดาไหล และถ้ามีความดันโลหิตสูงแบบวิกฤต (hypertensive crisis คือ ความดันช่วงบนมากกว่าหรือเท่ากับ 180 หรือช่วงล่างมากกว่าหรือเท่ากับ 120 มม.ปรอท) ก็มักจะมีอาการเลือดกำเดาไหลบ่อย

ส่วนน้อยอาจมีสาเหตุร้ายแรง เช่น โรคเลือดที่มีเลือดออกง่าย ได้แก่ ฮีโมฟิเลีย มะเร็งเม็ดเลือดขาว โลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ ไอทีพี เป็นต้น ซึ่งมักมีเลือดออกตามไรฟัน มีจ้ำเขียวขึ้นตามตัว อาจมีเลือดออกที่อื่น ๆ มีไข้ หรือตับโตม้ามโตร่วมด้วย

ในผู้ใหญ่ที่มีเลือดกำเดาบ่อยร่วมกับอาการคัดจมูก หูอื้อหรือมีก้อนบวมที่ข้างคอ อาจเกิดจากมะเร็ง หรือเนื้องอกในจมูกหรือโพรงหลังจมูก


อาการ

มีเลือดสด ๆ ไหลออกทางรูจมูกข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้าง

ถ้าออกที่ด้านหลังของจมูกอาจมีเลือดไหลลงคอและปาก ผู้ป่วยอาจมีอาการไอออกมาเป็นเลือดจากเลือดกำเดาที่ไหลลงคอ หรืออาจกลืนเลือดลงไปในกระเพาะอาหารทำให้อาเจียน หรือมีอาการถ่ายอุจจาระดำ (ซึ่งเป็นเลือดเก่า มาจากเลือดกำเดาที่ไหลลงไปในลำไส้) ในวันต่อ ๆ มา

ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าออกมากอาจทำให้เกิดภาวะซีดได้ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างน้อย

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

อาจตรวจพบเลือดกำเดาไหลหรือจุดเลือดออกที่เยื่อจมูก ภาวะซีด (ในรายที่เสียเลือดมาก)

ในรายที่มีโรคที่เป็นสาเหตุของเลือดกำเดา อาจตรวจพบความผิดปกติ เช่น ไข้ น้ำมูกไหล จุดแดงจ้ำเขียวตามตัว เลือดออกตามที่อื่น ๆ ผนังกั้นจมูกคด ติ่งเนื้อเมือกจมูก สิ่งแปลกปลอมในรูจมูก ความดันโลหิตสูง ดีซ่าน ตับโต เป็นต้น 

ในรายที่เลือดกำเดาออกรุนแรง เป็น ๆ หาย ๆ บ่อย หรือตรวจพบหรือสงสัยว่ามีโรคที่เป็นสาเหตุของเลือดกำเดา แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น ใช้กล้องส่องตรวจจมูกและโพรงหลังจมูก ตรวจชิ้นเนื้อ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เอกซเรย์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้การปฐมพยาบาล โดยให้ผู้ป่วยนั่งตัวตรง โน้มตัวไปข้างหน้า ก้มศีรษะเล็กน้อย ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้บีบจมูกทั้ง 2 ข้างให้แน่นเป็นเวลา 10 นาที บอกให้ผู้ป่วยหายใจทางปากแทน

ส่วนมากมักจะได้ผลโดยวิธีดังกล่าว ถ้าไม่ได้ผลให้ทำซ้ำอีกครั้งนาน 10 นาที

ถ้าเลือดยังไม่หยุด แพทย์จะใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาดชิ้นเล็ก ๆ ชุบอะดรีนาลิน ขนาด 1:1,000 ให้ชุ่มสอดเข้าในรูจมูกข้างที่มีเลือดออก ยัดให้แน่น ยานี้จะช่วยให้หลอดเลือดฝอยตีบลงและเลือดหยุดได้ ควรยัดผ้าก๊อซไว้นาน 2-3 ชั่วโมง เมื่อแน่ใจว่าเลือดหยุดดีแล้วจึงค่อย ๆ ดึงออก

ในรายที่เลือดออกไม่หยุด อาจต้องรักษาโดยการจี้ด้วยสารเคมี-ซิลเวอร์ไนเทรต (silver nitrate) หรือจี้ด้วยความร้อน (electrocautery)

2. ในรายที่แพทย์ทำการตรวจเพิ่มเติม พบภาวะซีด หรือโรคที่เป็นสาเหตุ ก็จะทำการรักษาภาวะ/โรคที่ตรวจพบ เช่น ให้ยาบำรุงโลหิตในรายที่มีภาวะซีดจากการเสียเลือด, ให้ยารักษาโรค (เช่น ไข้หวัด หวัดภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคเลือด), ปรับเปลี่ยนยา (ที่ใช้รักษาโรคอยู่เดิม) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เลือดกำเดาไหล, เอาสิ่งแปลกปลอมออก, ผ่าตัดแก้ไข (เช่น ผนังกั้นจมูกคด เนื้องอกในโพรงจมูก) เป็นต้น

ผลการรักษา ส่วนใหญ่หายได้ภายในเวลาสั้น ๆ โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน แต่ถ้าหลังจากนั้นผู้ป่วยไม่ได้หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการ ก็อาจกำเริบซ้ำได้อีก

ส่วนน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ซึ่งมีโรคที่เป็นสาเหตุของเลือดกำเดา จำเป็นต้องได้รับการรักษาโรคที่เป็นสาเหตุอย่างต่อเนื่อง
 
วิธีห้ามเลือดกำเดา

การปฐมพยาบาล สำหรับอาการเลือดกำเดาไหล

    จัดให้ผู้ป่วยนั่งตัวตรง โน้มตัวไปข้างหน้า ก้มศีรษะเล็กน้อย
    ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้บีบจมูกทั้ง 2 ข้างให้แน่น บอกให้ผู้ป่วยหายใจทางปากแทน นาน 10 นาที
    ถ้าคลายนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ที่บีบจมูกออกแล้วเลือดยังไม่หยุด ให้ทำการบีบจมูกตามขั้นตอนข้างต้นซ้ำอีกครั้ง นาน 10 นาที ถ้าเลือดยังไม่หยุดควรรีบไปพบแพทย์ หรือให้แพทย์ทำการช่วยเหลือด้วยวิธีอื่นต่อไป

หมายเหตุ

    ระหว่างให้การปฐมพยาบาล อย่าให้ผู้ป่วยนอนราบหรือเงยหน้าขึ้น เพราะผู้ป่วยอาจกลืนเลือดลงไประคายต่อกระเพาะอาหาร เกิดอาการอาเจียนได้ หากมีเลือดไหลลงคอหรือปาก ควรคายออก อย่ากลืนลงไป
    หลังจากให้การช่วยเหลือจนเลือดหยุดแล้ว ควรระวังไม่ให้มีเลือดกำเดาออกอีก โดย
    - รักษาศีรษะให้อยู่ในระดับสูงกว่าหัวใจ อย่าก้มศีรษะให้อยู่ต่ำกว่าระดับหัวใจ และห้ามออกแรงเบ่ง ยกของหนัก เป็นเวลา 4-5 ชั่วโมง
    - ห้ามสั่งน้ำมูก แคะจมูก ขยี้จมูก เป็นเวลา 4-5 วัน
    - ถ้าเป็นไปได้ควรระวังไม่ให้ไอ จาม

การดูแลตนเอง

1. เมื่อมีเลือดกำเดาไหล ควรทำการปฐมพยาบาล

ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว ถ้ามีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ทำการปฐมพยาบาลไม่ได้ผล หรือมีเลือดกำเดาออกนานเกิน 20 นาที
    เลือดออกมาก หรือมีเลือดออกตามที่อื่น ๆ
    หายใจลำบาก
    มีอาการอาเจียนเพราะกลืนเลือดลงกระเพาะอาหารมาก
    ได้รับบาดเจ็บรุนแรง เช่น รถชน ตกจากที่สูง ถูกทุบตีที่ศีรษะ/ใบหน้า/จมูก
    มีภาวะซีดจากการเสียเลือด หรือมีจุดแดงจ้ำเขียวตามตัว
    มีประวัติกินยาต้านเกล็ดเลือด/สารกันเลือดเป็นลิ่ม
    มีโรคประจำตัว เช่น โรคเลือด ความดันโลหิตสูง โรคตับเรื้อรัง
    พบในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
    เป็น ๆ หาย ๆ บ่อย

2. กรณีที่ไปพบแพทย์ เมื่อได้รับการรักษาจากแพทย์ ควรดูแลตนเองดังนี้

    กินยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามการรักษาตามที่แพทย์นัด
    ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
    - มีเลือดกำเดาไหลไม่หยุดหรือกำเริบใหม่
    - เจ็บหรือแน่นจมูกมาก หายใจลำบาก ปวดศีรษะมาก อาเจียนบ่อย มีไข้สูง เบื่อ อาหาร หรือน้ำหนักลด
    - กินยาที่แพทย์ให้กลับไปกินที่บ้าน แล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด

การป้องกัน

สำหรับเลือดกำเดาที่พบบ่อยซึ่งมักเกิดจากสาเหตุที่ป้องกันได้ ควรปฏิบัติ ดังนี้

    หลีกเลี่ยงการแคะจมูก และตัดเล็บให้สั้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก)
    หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ
    ไม่สูบบุหรี่
    จำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่ม
    ถ้าเป็นหวัด น้ำมูกไหล ใช้ยาตามขนาดที่แพทย์แนะนำ และไม่ใช้ติดต่อกันนาน ๆ
    หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศแห้งหรือหนาวเย็น ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ควรพ่นรูจมูกด้วยสเปรย์น้ำเกลือ/หยอดจมูกด้วยน้ำเกลือ วันละ 2-3 ครั้งเพื่อให้จมูกชุ่มชื้น
    ถ้ามีอาการเลือดกำเดาเวลานอนในห้องปรับอากาศ ควรตั้งเครื่องเพิ่มความชื้นไว้ในห้อง หรือวางภาชนะใส่น้ำ (เช่น แก้ว ขัน กระป๋อง กะละมัง) ไว้ใกล้หัวนอน เพื่อเพิ่มความชื้น และ/หรือใช้วาสลินป้ายในรูจมูกก่อนนอน
    ถ้าทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บต่อศีรษะ/จมูก ควรใช้อุปกรณ์ป้องกัน
    ในรายที่เกิดจากสาเหตุที่ป้องกันได้ เช่น ไข้หวัด หวัดภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ ความดันโลหิตสูง เป็นต้น ก็ควรดูแลรักษาโรคเหล่านี้ให้ถูกต้อง

ข้อแนะนำ

1. เลือดกำเดาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พบในเด็ก มักไม่รุนแรง และหยุดได้ภายใน 20 นาที โดยอาจหยุดได้เองหรือหลังให้การปฐมพยาบาล อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีเลือดกำเดาไหลนานหรือรุนแรง หรือเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ

2. ผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ หากมีเลือดกำเดาไหล อาจมีความรุนแรง มีเลือดไหลมากและนานได้ เนื่องจากอาจมีโรคประจำตัว (เช่น โรคเลือด โรคตับเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง มะเร็งโพรงหลังจมูก) หรือกินยารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดที่มีผลทำให้เลือดออกง่าย (เช่น ยาต้านเกล็ดเลือด สารกันเลือดเป็นลิ่ม) ดังนั้น เมื่อมีเลือดกำเดาเกิดขึ้น ควรเฝ้าสังเกตอาการ หากมีเลือดกำเดาออกมากหรือนานเกิน 20 นาที ก็ควรรีบไปพบแพทย์

3
BYD M6 รถยนต์ไฟฟ้า น้องใหม่ที่มีดีมากกว่าที่คิด ไปเจาะลึกความอเนกประสงค์ที่มีอยู่ในรถรุ่นนี้กัน

ในยุคสมัยที่ยานยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นและมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด ผู้บริโภคจึงมองหายานพาหนะคู่ใจที่สามารถใช้งานได้ทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเดินทางท่องเที่ยวระยะไกล เรียกได้ว่าต้องครบจบในคันเดียวทั้ง ดีไซน์ สมรรถนะ อุกปรณ์อำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ โดยหนึ่งในโมเดลที่น่าจับตาที่สุดในช่วงนี้คือน้องใหม่จากแบรนด์บีวายดีที่พกความอเนกประสงค์มามอบความสะดวกสบายในทุกเส้นทางแบบไม่มีกั๊กอย่าง BYD M6 นั่นเอง วันนี้ เรเว่ ออโตโมทีฟ อยากชวนมาสำรวจความรอบด้านของ MPV คันนี้ว่าจะอเนกประสงค์สมคำร่ำลือขนาดไหน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานแบบใดกันบ้าง มาติดตามกันได้เลย

เดินทางอุ่นใจไปด้วยกันทั้งบ้าน ไม่ว่าจะครอบครัวเดี่ยว ครอบครัวใหญ่ หรือสายสัตว์เลี้ยง
การเดินทางกับสมาชิกในครอบครัวถือเป็นช่วงเวลาอันล้ำค่าในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและสถานการณ์เร่งรีบ จะครอบครัวขนาดเล็กที่มีเพียงพ่อ-แม่-ลูก ครอบครัวใหญ่ที่มีคนหลายเจนเนอเรชันอยู่ร่วมกัน หรือแม้แต่ครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยง ก็สามารถไปไหนมาไหนด้วยกันได้อย่างสบายๆ เพราะ BYD M6 จุคนได้ถึง 6 ที่นั่ง แถมยังมีฟังก์ชันการพับเบาะแถวที่ 3 ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ถึง 580 ลิตร เพียงพอสำหรับข้าวของเครื่องใช้จำนวนมาก หรือจะจัดเป็นมุมพักผ่อนสบายๆ สำหรับสัตว์เลี้ยงก็ไม่ยาก นอกจากนี้ หลังคากระจกแบบพาโนรามิกขนาดใหญ่พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้าป้องกันรังสียูวี มอบความรู้สึกโปร่งสบายให้กับห้องโดยสารอยู่เสมอ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่มีตัวกรองฝุ่น PM 2.5 ช่วยให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยอากาศที่สะอาด สดชื่น มั่นใจได้ว่าทุกคนในบ้านจะได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ทั้งประทับใจและปลอดภัยบนท้องถนน

คู่รักนักธุรกิจ สร้างอนาคตด้วยพื้นที่และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ได้ลงตัว
สำหรับคู่ชีวิตที่ลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน การมีรถยนต์อเนกประสงค์ที่ไม่เพียงใช้สำหรับการใช้สัญจรไปมาแต่ยังตอบโจทย์ชีวิตของวัยรุ่นสร้างตัวแบบ 2-in-1 ถือเป็นกำไรอย่างหนึ่ง ซึ่ง BYD M6 ที่มาพร้อมพื้นที่เก็บของท้ายรถที่ปรับได้ตามความต้องการ และระบบ VtoL (Vehicle to Load) ที่สามารถแปลงพลังงานไฟฟ้าจากตัวรถมาใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะสำหรับการทำธุรกิจแบบ On The Go อย่างการเปิดท้ายขายของ หรือบริการเสริมความงามอย่างการทำเล็บ พร้อมสนับสนุนการสร้างอนาคตและทำให้การทำตามความฝันเป็นไปได้อย่างอิสระและเต็มที่

รวมตัวเพื่อนซี้ โร้ดทริปต่างจังหวัดแบบยกแก๊ง
มนุษย์วัยทำงานอย่างเราๆ นานทีปีหนจะมีโอกาสได้นัดเพื่อนเก่าสมัยเรียนจัดทริปท่องเที่ยวรำลึกความหลัง แน่นอนว่าเมื่อมีโอกาสได้กลับมาเจอกัน ทุกคนก็อยากใช้เวลาที่มีร่วมกันให้ได้มากที่สุดตั้งแต่อยู่บนรถ บอกเลยว่าจะทริปใกล้หรือไกลก็หายห่วงถ้าไปกับ BYD M6 ที่พร้อมพาทั้งแก๊งไปสนุกทุกที่ โดยรุ่น Dynamic วิ่งได้ไกล 420 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และรุ่น Extended จัดเต็มวิ่งไกลสูงสุดถึง 530 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ขับกันยาวๆ พร้อมเอนจอยตลอดเส้นทางด้วยระบบมัลติมีเดียที่ให้ความบันเทิงเต็มรูปแบบ หน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ปรับหมุนด้วยไฟฟ้า รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto กับลำโพงรอบคันถึง 6 จุดการันตีว่าทุกการเดินทางจะเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความทรงจำดีๆ จนอยากวางแผนทริปครั้งต่อไปอีกเรื่อยๆ

หนุ่มสาวชาวออฟฟิศสายติดรถ ทางเดียวกัน ไปด้วยกัน
ทุกวันนี้ มีผู้ใช้รถใช้ถนนในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเหล่ามนุษย์เงินเดือนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเดินทางมายังออฟฟิศมักจะชวนเพื่อนร่วมงานให้โดยสารไปด้วยกัน ไม่ว่าจะขาไป ขากลับ ออกไปประชุม หรือแม้แต่การไปหามื้อกลางวันรับประทานข้างนอก สำหรับใครที่เป็นคนเฟรนด์ลีมีเพื่อนเยอะในที่ทำงาน หมดกังวลได้เลยถ้ามี BYD M6 เป็นรถยนต์คู่ใจ ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง สามารถรองรับผู้โดยสารได้หลายคน ทั้งยังมาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนรถ อาทิ กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ช่วยในการมองเห็นทุกมุม ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะที่ครบครัน และถุงลมนิรภัยถึง 6 ตำแหน่งที่ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อย่างทั่วถึง

 BYD M6 เป็นมากกว่ารถ MPV ทั่วไป เพราะไม่เพียงแต่เป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดมลภาวะและประหยัดพลังงาน แต่ยังอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างหลากหลายและลงตัวสำหรับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม โดย BYD M6 พร้อมให้ทุกคนสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าแล้ววันนี้ ผู้ที่สนใจสามารถทดลองขับและเป็นเจ้าของได้แล้วที่โชว์รูม BYD ทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม

4
ข้อมูลโรคมะเร็งลูกตาในเด็ก (Retinoblastoma)

มะเร็งลูกตาในเด็ก หมายถึงมะเร็งของเนื้อเยื่อจอตา (retina) เป็นมะเร็งที่พบได้น้อย พบได้ประมาณร้อยละ 2 ของมะเร็งที่พบในเด็ก (อายุต่ำกว่า 15 ปี)

มักพบก่อนอายุ 4 ปี อาจพบในผู้ใหญ่ได้ แต่น้อยมาก

ส่วนใหญ่เป็นเพียงข้างเดียว ประมาณร้อยละ 20-30 เป็นพร้อมกัน 2 ข้าง

สาเหตุ

เกิดจากความผิดปกติของยีนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญของตาในช่วงที่เป็นทารกในครรภ์มารดา ทำให้เซลล์ประสาทของจอตาเจริญผิดปกติกลายเป็นเนื้องอกชนิดร้าย ซึ่งลุกลามไปยังส่วนอื่นของตาและอวัยวะนอกเบ้าตาได้

ประมาณ 1/3 ของเด็กที่เป็นโรคนี้เกิดจากความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ หากมีพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งเป็นโรคนี้ซึ่งเกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ บุตรที่เกิดมามีโอกาสรับกรรมพันธุ์ของโรคนี้ถึงร้อยละ 50 ซึ่งมีโอกาสเป็นมะเร็งลูกตาได้ถึงร้อยละ 90 ในกรณีนี้เด็กมักจะเป็นมะเร็งที่ลูกตาทั้ง 2 ข้าง และสามารถถ่ายทอดให้ลูกหลานต่อไปได้

ประมาณ 2/3 ของเด็กที่เป็นโรคนี้เกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนของเด็กตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์ โดยที่พ่อและแม่ไม่มีความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ในกรณีนี้เด็กมักจะเป็นมะเร็งที่ลูกตาเพียงข้างเดียว และไม่ถ่ายทอดให้ลูกหลานต่อไป


อาการ

ที่สำคัญพ่อแม่จะสังเกตว่าเมื่อใช้ไฟ (หรือไฟแฟลชถ่ายภาพ) ส่องตรงตาดำของเด็ก จะเห็นเป็นสีขาววาวคล้ายตาแมว

เด็กอาจมีอาการตามัวหรือมองไม่เห็น และอาจมีอาการตาเหล่ ตาแดง เปลือกตาบวม

เมื่อเป็นมากขึ้นตาจะเริ่มปูดโปนออกมานอกเบ้าตา

ภาวะแทรกซ้อน

หากไม่ได้รับการรักษา เด็กมักจะตาบอด และอายุสั้น

มะเร็งลูกตาอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นของดวงตา และออกนอกเบ้าตา

ในกรณีที่เป็นเพียงข้างเดียวอาจลุกลามไปที่ตาอีกข้างได้

มะเร็งอาจแพร่ไปตามเส้นประสาทตาเข้าไปในสมอง รวมทั้งอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น กระดูก ปอด เป็นต้น

นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยที่เกิดจากความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งชนิดอื่นในเวลาต่อมา เช่น มะเร็งต่อมไพเนียล (pineoblastoma) มะเร็งกระดูก (osteosarcoma) มะเร็งกล้ามเนื้อ (sarcoma) มะเร็งผิวหนัง (melanoma) เป็นต้น จึงควรให้แพทย์คอยเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยโดยการใช้เครื่องมือตรวจจอตา ทำการตรวจด้วยอัลตราซาวนด์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์

บางรายแพทย์อาจเจาะหลังนำน้ำไขสันหลังไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง หรือทำการตรวจไขกระดูกว่ามีมะเร็งแพร่กระจายไปที่ไขกระดูกหรือยัง

การรักษาโดยแพทย์

การรักษาขึ้นกับขนาดและตำแหน่งของมะเร็ง การแพรก่ระจายของมะเร็ง และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

แพทย์จะให้เคมีบำบัดในรายที่เป็นระยะแรกเริ่ม เพื่อให้ก้อนมะเร็งฝ่อเล็กลง แล้วใช้วิธีอื่นรักษาต่อ เช่น รังสีบำบัด (radiation therapy) การบำบัดด้วยความเย็น (cryotherapy) การบำบัดด้วยความร้อน (thermotherapy) หรือเลเซอร์ (laser therapy) ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องผ่าตัดเอาลูกตาออก

ในรายที่มะเร็งมีการแพร่กระจายออกนอกเบ้าตา แพทย์จะให้การรักษาด้วยเคมีบำบัดและรังสีบำบัด

ในรายที่โรคเป็นมากจนไม่อาจรักษาด้วยวิธีอื่น แพทย์จะทำการผ่าตัดเอาลูกตาออก และใส่ดวงตาเทียมเข้าไปแทนที่ในเบ้าตา (เพื่อความสวยงามแต่ใช้การไม่ได้)

ผลการรักษา หากได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม มีโอกาสหายขาดได้ถึงร้อยละ 90 แต่บางรายหลังการรักษาจนโรคหายแล้ว อาจเกิดมะเร็งชนิดนี้กำเริบได้ใหม่ หรือเด็กที่เป็นมะเร็งลูกตา 2 ข้างหรือเกิดจากการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ อาจเกิดมะเร็งชนิดอื่นตามมาในภายหลัง แพทย์จำเป็นต้องติดตามดูอาการเป็นระยะ


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น สังเกตเห็นตาดำของเด็กมีสีขาววาวคล้ายตาแมว (เห็นชัดเมื่อใช้ไฟส่อง) เด็กมีอาการตามัว มองเห็นไม่ชัด ตาเหล่ ตาแดง หรือตาโปน ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลูกตาในเด็ก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการตามัว ตาแดง ปวดตามาก ปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก ชัก แขนขาชาหรืออ่อนแรง หายใจหอบ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรือหน้าตาซีดเซียว
    สงสัยมีมะเร็งลูกตากำเริบใหม่
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากยังไม่ทราบปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ และส่วนหนึ่งเกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์


ข้อแนะนำ

1. เด็กที่มีญาติสายตรงเป็นมะเร็งชนิดนี้ ควรให้แพทย์ตรวจดูตาอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่หลังคลอด

2. ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองสังเกตเห็นตาของเด็กมีความผิดปกติ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ และดูแลรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ หากจำเป็นต้องผ่าตัดเอาลูกตาออก พ่อแม่ควรสอบถามแพทย์ให้เกิดความเข้าใจและยอมรับ ไม่ควรปฏิเสธการรักษาโดยวิธีนี้ ซึ่งจะทำให้เด็กได้รับอันตรายและอายุสั้นได้

3. ปัจจุบันมีวิธีบำบัดรักษาโรคมะเร็งใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้โรคหายขาดหรือทุเลา หรือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้ป่วยจึงควรติดต่อรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็ง มีความมานะอดทนต่อผลข้างเคียงของการรักษาที่อาจมีได้ อย่าเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น หากสนใจจะแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

5
ทาวน์เฮ้าส์ ไลโอ ราชพฤกษ์ - ปทุมธานี (Lio Ratchaphruek - Pathumthani)
เริ่มต้น 2 ลบ. 

ไลโอ ราชพฤกษ์ - ปทุมธานี (Lio Ratchaphruek - Pathumthani)
โครงการใหม่ ทาวน์โฮม French colonial Style บนสุดยอดทำเล เชื่อมต่อทำเลเมือง ใกล้ราชพฤกษ์ตัดใหม่-ทางด่วนศรีสมาน ใกล้แหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ และ บิ๊กซี ปทุมธานี

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ             ไลโอ ราชพฤกษ์ - ปทุมธานี (Lio Ratchaphruek - Pathumthani)
 เจ้าของโครงการ        ลลิลพร็อพเพอร์ตี้
 แบรนด์ย่อย              ไลโอ
 ราคา                      เริ่มต้น 2 ลบ.

 ประเภทบ้าน           ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome)
 ลักษณะทำเล         บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนบ้าน           โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 แบบบ้านทั้งหมด      2 แบบ
  เนื้อที่บ้าน           โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 พื้นที่ใช้สอย         ตั้งแต่ 105 ถึง 125 ตร.ม.
 จำนวนชั้น            2 ชั้น
 หน้ากว้าง           โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน    ตั้งแต่ 3 ถึง 4 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ    ตั้งแแต่ 1 ถึง 2 คัน
 สาธารณูปโภค      สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV, Keycard System

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน         ปทุมธานี, คลองหลวง, ธัญบุรี, ลำลูกกา
 ที่ตั้ง        คลองชมพูเดช ตำบลบางเดื่อ อำเภอเมืองปทุมธานี ปทุมธานี 12000

 ขนส่งสาธารณะ            โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
Big C ปทุมธานี
Lotus's ปทุมธานี
Makro ปทุมธานี่
Robinson ศรีสมาน
The Nine Center ติวานนท์
Robinson ราชพฤกษ์
Lotus's North ราชพฤกษ์
โรงเรียนปทุมวิไล
โรงเรียนสาธิตปทุม (IIP)
โรงเรียนนวมินทราชินูทิศหอวัง นนทบุรี
โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์
โรงเรียนอนุบาลปาลินา ติวานนท์
สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์บางกะดี (SIIT TU)
มหาวิทยาลัยปทุมธานี
โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี
ศูนย์การแพทย์
โรงพยาบาลกรุงไทยปทุม
โรงพยาบาลปทุมธานี
โรงพยาบาลปากเกร็ด 2
โรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส

6
บริการด้านอาหาร: ภาวะโลหิตจาง ต้องกินอาหารอย่างไร!
 
ภาวะโลหิตจาง เป็นภาวะที่เกิดจากร่างกายมีเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ พบได้บ่อยในคนทั่วไป โดยเม็ดเลือดแดงมีหน้าที่ในการส่งออกซิเจนไปให้เซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกาย การที่เม็ดเลือดแดงลดลงจึงส่งผลให้เกิดความผิดปกติได้หลากหลาย ตั้งแต่อาการเหนื่อยง่ายขึ้นกว่าเดิม บางคนอาจรู้สึกว่าเมื่อออกแรงทำกิจกรรมแล้วเหนื่อยมากขึ้น หรือบางคนอยู่เฉยๆ ก็อาจรู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลียก็ได้ บางคนอาจมีความรู้สึกหงุดหงิด

หากเกิดภาวะโลหิตจางรุนแรง อาจกระทบการทำงานของหัวใจ เกิดภาวะหัวใจทำงานมากขึ้นจนถึงขั้นหัวใจล้มเหลวได้ หรือกระทบกับการทำงานของสมอง  ทำให้มีอาการวูบหรือหมดสติ อาการต่างๆ อาจเกิดมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละคน ซึ่งสาเหตุหนึ่งของการเกิดภาวะโลหิตจาง อาจจะมาจากการขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งที่สำคัญ ได้แก่ ธาตุเหล็ก, วิตามินบี 12, กรดโฟลิค

ดังนั้น คนที่มีภาวะโลหิตจางควรที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง และต้อวเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยวันนี้ทาง SN Food อาหารเพื่อสุขภาพ เราจะมาพูดถึงเรื่องของภาวะโลหิตจางว่า เมื่อเกิดภาวะดังกล่าว เราจะต้องจัดการกับโภชนาการอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางให้คนที่มีภาวะโลหิตจางได้หันมาใส่ใจในการรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง
 
โดยการป้องกันภาวะโลหิตจางนั้น เราจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและวิตามินเสริม เนื่องจากภาวะโลหิตจางบางประเภทเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่เพียงพอ หรือภาวะบางอย่างจากโรค ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงและวิตามินต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิตามินบี 12 กรดโฟลิก รวมถึงวิตามินซี ที่มีส่วนช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น เนื้อสัตว์ประเภทเนื้อแดง เครื่องใน อาหารทะเล ผักใบเขียวเข้ม ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ไข่ นม เป็นต้น

โดยการรับประทานอาหารสำหรับเด็กทารกที่มีภาวะโลหิตจาง ในวัยตั้งแต่แรกเกินจนครบ 1 ปี ควรดื่มนมแม่ เนื่องจากนมแม่มีสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วนอยู่แล้ว ไม่ควรดื่มนมวัวที่ไม่ได้รับรองสำหรับทารก เมื่ออายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปสามารถเริ่มรับประทานผักผลไม้ได้แล้ว หากเด็กอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปยังสามารถดื่มนมแม่ร่วมกับรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ข้าวโอ๊ต ผักใบเขียว ตับ และไข่ เป็นต้น


และสำหรับบุคคลทั่วไปที่เป็นโลหิตจาง ควรรับประทานผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม ผลไม้อบแห้ง เนื้อสัตว์โดยเฉพาะตับ เนื้อสัตว์สีแดง และอาหารทะเลซึ่งเป็นแหล่งของธาตุเหล็ก หรือจะรับประทานธัญพืชจำพวกถั่วเหลือง ถั่วแดง หรืองา เป็นต้น แต่ในกรณีโลหิตจางจากการขาดโฟลิกและวิตามินบี 12 หากขาดกรดโฟลิกให้รับประทานอาหารจำพวกผักผลไม้สด หรือข้าวกล้อง เนื้อวัว และปลาแซลมอน เป็นต้น หากเกิดจากการขาดวิตามินบี 12 ให้เน้นรับประทานไข่ เนื้อสัตว์รวมถึงเนื้อปลา ก็จะสามารถช่วยได้ และควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากร่างกายของผู้ป่วยเลือดจางต้องกินอาหารเพื่อลดการขาดสารอาหารที่สำคัญต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง

 
จึงมีอาหารบางประเภทที่อาจขวางกั้นการดูดซึมอาหารเหล่านั้นที่ควรหลีกเลี่ยง และอาหารที่ไม่ควรทานพร้อมกัน คือถ้าหากรับประทานยาเสริมธาตุเหล็ก ไม่ควรทานพร้อมกับการดื่มนม ไม่ควรดื่มชากาแฟ หลังมื้ออาหารที่มีผักใบเขียว ควรหลีกเลี่ยงผักใบเขียวเข้มรสฝาด ทั้งสมุนไพร ขี้เหล็ก ขมิ้นชัน กระถิน  เป็นต้น
รวมถึงต้องจำกัดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ด้วย โดยผู้ชายควรดื่มไม่เกิน 2 แก้ว ส่วนผู้หญิงไม่ควรดื่มเกิน 1 แก้วต่อวัน อย่ารงไรก็ตาม นอกจากการรับประทานอาหารแล้ว ผู้ป่วยโลหิตจางสามารถออกกำลังกายได้ด้วย แต่ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการออกกำลังกายที่ถูกต้องก่อนทุกครั้ง
 

ดังนั้น สิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม คือ เราทุกคนควรพยายามรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และรับประทานในแต่ละหมู่ให้มีความหลากหลาย โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว ต้องระมัดระวังในการรับประทานอาหารให้มากเป็นพิเศษ และต้องรับประทานอาหารให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารต่างๆ ครบในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ทางเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี เพื่อที่จะได้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ

7
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



8
ขายรถป้ายแดง MG 5 1.5 D+ ปี2024 ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

เอ็มจี MG 5 1.5 D+ MY2022 ปี 2022
ALL NEW MG5 รถยนต์สปอร์ตคูเป้ซีดานมาพร้อมนิยาม BORN TO BE BEYOND : คิดให้เหนือกว่า เพื่อทุกความเป็นคุณ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นให้มีความเหนือกว่าในทุกด้านด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ซึ่งให้ความเหนือชั้นกว่าทั้งในด้านสมรรถนะ, การควบคุม, การออกแบบ และความปลอดภัย เพื่อให้เป็นยนตรกรรมที่มีความสปอร์ต ที่มาพร้อมความสะดวกสบายตอบทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชัน และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน DOHC VTi-TECH 4 สูบ 1.5 ลิตร ให้พละกำลัง 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ 8 สปีด

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 1 พ.ย. - 31 ธ.ค. 2567
โปรโมชั่น ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.29% ตลอดอายุสัญญา
วารันตี 2ปี

ราคาพิเศษ 399,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์               MG
   รุ่น                    เอ็มจี MG 5 1.5 D+ MY2022 ปี 2022
   ประเภทรถ           รถเก๋ง 4 ประตู, Sport Coupe
   ปีที่เปิดตัว           2022



9
การจัดฟันเด็ก แก้ไขปัญหาพฤติกรรมที่ผิดปกติได้หรือไม่

พฤติกรรมการดูดนิ้วของลูกน้อย ถือเป็นพัฒนาการปกติของเด็กเล็ก เป็นพฤติกรรมที่เด็กใช้ในการปลอบตนเอง หรือเป็นการกระตุ้นตัวเอง ซึ่งถือว่าเป้นเรื่องปกติ พฤติกรรมดังกล่าว สามารถพบภาวะนี้ได้ตั้งแต่ในครรภ์ วัยทารกพบภาวะดังกล่าวได้ถึงร้อยละ 80 ของเด็กทั้งหมด และจะลดลงจนเหลือประมาณร้อยละ 30-45 ในเด็กวัยก่อนเรียน โดยภาวะดังกล่าวเกิดจากการเรียนรู้พฤติกรรมในการปลอบตัวเองหรือการทำให้ตัวเองพึงพอใจโดยบังเอิญ เมื่อทำแล้วจะรู้สึกผ่อนคลาย มักเกิดขึ้นช่วงเหนื่อย ง่วง เบื่อ หงุดหงิด ไม่สบาย หรือรู้สึกไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามการดูดนิ้วอาจเป็นพฤติกรรมที่เกิดการเรียนรู้เพื่อกระตุ้นตัวเองในเด็กที่ขาดการกระตุ้นหรือไม่ได้รับการดูแล

แต่อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการดูดนิ้วที่มากเกินไป ในเด็กที่อายุมากกว่า 4 ปี อาจนำมาสู่ภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ปัญหาช่องปากและฟัน การสบฟันผิดปกติ กระดูกใบหน้าเจริญผิดปกติหรือพูดไม่ชัดได้ ดังนั้น พ่อแม่ต้องคอยสอดส่องดูแล หมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูกน้อยเพื่อที่จะได้ป้องกันการเกิดการผิดปกติในเรื่องของโครงสร้างของใบหน้า และในเรื่องของปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก แต่รู้หรือไม่ว่า การเข้ารับการจัดฟันในเด็กนั้น สามารถแก้ไขพฤติกรรมการดูดนิ้วในเด็กได้ หากเด็กมีอายุมากกว่า 4 ปี ขึ้นไป พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านเข้าพบทันตแพทย์จัดฟันเพื่อเข้ารักษาอาการผิดปกติ ที่เสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของช่องปากและฟัน รวมไปถึงปัญหาความผิดปกติขิงโครงสร้างใบหน้าด้วย

 สำหรับวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันในเด็กว่า สามารถแก้ไขพฤติกรรมความผิดปกติในเด็กได้หรือไม่ พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะมีความกังวลว่า ถ้าหากบุตรหลานของท่านมีพฤติกรรมการดูดนิ้วหรือชอบดูดขวดนม แม้ว่าจะอายุมากกว่า 4 ปีแล้ว ก็ยังไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว หลายคนอาจจะกังวลว่า ลูกเมื่อโตขึ้นจะมีความผิดปกติในเรื่องของโครงสร้างใบหน้าหรือส่งผลต่อสุขภาพหรือไม่ แน่นอนว่า หากลูกโตไปแล้วยังมีพฤติกรรมการดูดนิ้ว อาจจะส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพของลูกน้อยได้ วันนี้เราจะมาพูดถึงการจัดฟันในเด็ก สำหรับการจัดฟันในเด็กที่มีอายุ 4-7 ปี เพราะเด็กในวัยนี้ยังมีพฤติกรรมการดูดนิ้ว ซึ่งเป็นผลเสียในอนาคตได้

หากมีพฤติกรรมเหล่านี้นานเกินไป ซึ่งการจัดฟันของเด็กในวัยนี้ก็จะเหมาะสำหรับการจัดฟันแบบ EF Line เป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต ซึ่งเครื่องมือ EF Line จะมีลักษณะเป็นชิ้นยางที่มีหลากหลายสี ที่ทำให้เด็กสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องมือชิ้นนี้ได้ และเด็กก็ควรสวมใส่เครื่องมือชิ้นนี้ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ ซึ่งการสวมใส่เครื่องมือ EF Line ก็จะช่วยลดปัญหาในเรื่องของการดูดนิ้วได้ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป เด็กๆก็จะเลิกพฤติกรรมการดูดนิ้วไปเอง ดังนั้น การจัดฟันในเด็ก ก็สามารถช่วยลดพฤติกรรมการดูดนิ้วได้ นั่นเอง

หากใครสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันทุกรูปแบบ รวมไปถึงมีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมมาอย่างยาวนาน จึงทำให้มั่นใจได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพฟันที่แข็งแรง มีโครงสร้างของใบหน้าที่ปกติ ทำให้เด็กมีความมั่นใจ และมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้น เพราะทางเราใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก อยากให้เด็กได้มีฟันที่แข็งแรง เพื่อที่จะได้มีพัฒนาการที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย

10
วัดไผ่เงินโชตนาราม ถนนจันทน์ ทำบุญ ขอพรการค้า การงาน และเงินทองโชคลาภแบบปัง ๆ

ไหว้พระ วัดไผ่เงิน ย่านถนนจันทน์ ขอพร 3 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ท้าวเวสสุวรรณ และพระแม่ลักษมี เฮง ๆ ปัง ๆ ทั้งการงาน การเงิน และ

ถนนจันทน์ หรือ ตรอกจันทน์ ย่านชุมชนเก่าแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่มีบรรยากาศคึกคัก ผู้คนพลุกพล่านทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นแหล่งขึ้นชื่อเรื่องอาหารมากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟคาเฟ่ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีวัดชื่อดังอย่าง วัดไผ่เงินโชตนาราม หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดไผ่เงิน ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สายมูรู้จักกันดีอย่าง พระแม่ลักษมี ที่ดังมากในเรื่องการขอพรด้านความร่ำรวย โชคลาภเงินทอง และความรัก แต่รู้หรือไม่ว่า วัดไผ่เงิน ถนนจันทน์ ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายให้สายมูได้กราบไหว้ขอพรกันอีก ใครที่กำลังหาวัดในกรุงเทพฯ น่าไปทําบุญ เดินทางสะดวก เรามีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับวัดไผ่เงินมาฝาก ดังนี้

วัดไผ่เงิน ที่ตั้งและประวัติ

           วัดไผ่เงิน หรือ วัดไผ่เงินโชตนาราม ตั้งอยู่ที่ซอยวัดไผ่เงิน ถนนจันทน์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ สร้างขึ้นเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2335 (รัชกาลที่ 1) ไม่ทราบนามและประวัติผู้สร้าง เดิมชื่อว่า วัดไผ่ล้อม ต่อมาทางราชการได้เวนคืนที่ดินตำบลคลองเตย ซึ่งวัดเงินตั้งอยู่ เพื่อสร้างท่าเรือกรุงเทพฯ ด้วยเหตุนี้ วัดเงินจึงได้รื้อเสนาสนะมารวมสร้างกับวัดไผ่ล้อม แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น วัดไผ่เงิน ในปี พ.ศ. 2482 (รัชกาลที่ 8) ต่อมาทางวัดได้อัญเชิญ หลวงพ่อสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นพระประธานจากวัดโชติการาม (วัดพระยาไกร) ที่ได้กลายเป็นวัดร้าง พร้อมกับย้ายเสนาสนะมารวมสร้างที่วัดไผ่เงิน จึงเท่ากับเป็นการรวม 3 วัดเข้าไว้ด้วยกัน ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดไผ่เงินโชตนาราม ในปี พ.ศ. 2483 และในปี พ.ศ. 2557 ได้รับการยกสถานะเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ

           หลวงพ่อสัมฤทธิ์ พระประธานเนื้อสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 104 นิ้ว ประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสุโขทัยตอนปลายต่อสมัยอยุธยาที่ถูกอัญเชิญมาจากวัดพระยาไกร (สร้างขึ้นในเวียงจันทน์) โดยหลวงพ่อสัมฤทธิ์เกี่ยวข้องกับ หลวงพ่อทองคำ ที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ว่ากันว่าเป็นพระพี่พระน้องกัน พระพุทธรูปทั้งสององค์เป็นพระเก่าแก่ที่ผู้คนเลื่อมใสและเคารพศรัทธาอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปมากมายให้ได้สักการะบูชา ได้แก่ หลวงปู่ทวด วัดพะโคะ หลวงพ่อองค์ดำ และ หลวงปู่สี เป็นต้น

หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดไผ่เงิน

    เรื่องที่นิยมขอพร : การค้าขาย หน้าที่การงาน และโชคลาภเงินทอง

    เครื่องสักการะ : สามารถซื้อได้กับทางวัดไผ่เงินได้เลย

ท้าวเวสสุวรรณ และพระนารายณ์ทรงครุฑ ประทับพระราหู

          ท้าวเวสสุวรรณ วัดไผ่เงินโชตนาราม องค์สีทอง 2 องค์ มีขนาดความสูง 2.90 เมตร ขนาบข้างพระนารายณ์ทรงครุฑ ประทับพระราหู ขนาดความสูง 1.50 เมตร มีเคล็ดลับในการขอพร คือ ต้องลูบตะบององค์ท้าวเวสสุวรรณ ขณะที่อธิษฐานขอพรนั้น โดยให้จับบริเวณปลายตะบองที่พันไว้ด้วยผ้าแดง เพราะตามคติเทวะมันตราเชื่อว่าเป็นบริเวณที่มีพลังอำนาจมากที่สุด และสำหรับใครที่ดวงตก แนะนำให้ไปไหว้บูชาพระนารายณ์ทรงครุฑ ประทับพระราหู รวมถึงขอพรเรื่องความมั่งคั่งร่ำรวย โชคลาภ และสามารถปัดเป่าเคราะห์ร้ายได้

    เรื่องที่นิยมขอพร : โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี และการงานเจริญรุ่งเรือง

    เครื่องสักการะ : สามารถซื้อได้กับทางวัดไผ่เงินได้เลย

พระพิฆเนศ

           พระพิฆเนศ วัดไผ่เงินโชตนาราม เป็นพระพิฆเนศ ปางนารถคเณศ ความสูง 1.95 เมตร เนื้อทองเหลือง มี 10 กร และถืออาวุธครบ เรียกว่าเป็นพระพิฆเนศองค์มหาเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ และความสำเร็จทั้งปวง ชัยชนะ เมตตา อุปถัมภ์ ร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์

    เรื่องที่นิยมขอพร : เมตตามหานิยม ชัยชนะ และการงาน โดยเฉพาะด้านเงินทอง

    เครื่องสักการะ : แนะนำให้เลือกเครื่องสักการะที่เป็นธัญพืช เพราะเชื่อกันว่าสามารถงอกงามได้อย่างรุ่งเรือง ที่สำคัญไม่ควรนำเครื่องบูชาที่มีส่วนผสมของไข่ เนื้อสัตว์ และของคาวต่าง ๆ มาไหว้พระพิฆเนศโดยเด็ดขาด

พระแม่ลักษมี

          พระแม่ลักษมี วัดไผ่เงินโชตนาราม เป็นเทวรูปพระแม่ลักษมี เทพธิดาแห่งความรักและความร่ำรวย มีขนาดความสูงประมาณ 1.95 เมตร หล่อด้วยทองเหลือง ประทับนั่งบนดอกบัว สวมเครื่องประดับอัญมณี ใบหน้างดงาม ประดับด้วยดอกไม้ มี 10 กร มือซ้ายมีเหรียญอยู่เต็มฝ่ามือ สื่อถึงความมั่งคั่งและโชคลาภ สร้างขึ้นโดย วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ดารานักแสดง นางแบบ และเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากมาย ด้วยความศรัทธาในพระแม่ลักษมี เพื่อให้ผู้ที่ศรัทธาได้กราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต

    เรื่องที่นิยมขอพร : การเงิน โชคลาภ ผลกำไรทางธุรกิจ ยอดขายต่าง ๆ

    เครื่องสักการะ : สามารถซื้อได้กับทางวัดไผ่เงินได้เลย หรือจะเตรียมมาเองก็ได้

นอกจากนี้ วัดไผ่เงินโชตนารามยังมี พระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งเชื่อว่าเป็นเทวีที่ประทานความอุดมสมบูรณ์ และความรุ่งเรือง ให้ได้กราบไหว้ขอพรได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องซื้อ-ขายบ้าน ที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์

วัดไผ่เงิน การเดินทาง

    รถโดยสารประจำทาง : สาย 1271 (สองแถว), 32, 35, 62 (ปอ.), 71, 4-26 และ 4-8

    รถไฟฟ้า BTS : สามารถลงได้หลายสถานี ดังนี้

          ◇ สถานีสะพานตากสิน ทางออก 3 หรือ 4 จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทางหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

          ◇ สถานีสุรศักดิ์ จากนั้นเดินต่อประมาณ 3 นาที

          ◇ สถานีสีลม จากนั้นให้ต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

    รถไฟฟ้า MRT : ลงสถานีลุมพินี ทางออก 2 จากนั้นต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

    รถยนต์ส่วนตัว : ลงทางด่วนพระราม 3 จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยสาธุประดิษฐ์ 20 หรือหากลงทางด่วนฝั่งถนนจันทน์ ให้เลี้ยวเข้าซอยจันทน์ 43 แล้วมุ่งหน้าสู่วัดไผ่เงินได้เลย ทั้งนี้ สามารถตั้งพิกัด GPS ไปที่ วัดไผ่เงินโชตนาราม และจอดรถในวัดได้เลย

วัดไผ่เงิน เปิด-ปิดกี่โมง

          วัดไผ่เงินโชตนาราม เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. สามารถเข้ามาไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ตลอด สำหรับช่วงเวลาที่คนเข้ามาไหว้สักการะค่อนข้างน้อย ไม่พลุกพล่านมากนัก คือช่วงเวลากลางคืน ใครที่ไม่ชอบคนหนาแน่น แนะนำให้มาไหว้ขอพรที่วัดไผ่เงินในช่วงกลางคืนได้

          สายมูคนไหนที่อยากไหว้พระขอพรเรื่องค้าขาย การงาน การเงิน โชคลาภต่าง ๆ สามารถไปที่ วัดไผ่เงินโชตนาราม ถนนจันทน์ ได้เลย เพราะครบจบทุกด้านในที่เดียว แต่อย่าลืมว่าการไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวให้เกิดความสบายใจเท่านั้น ต้องลงมือทำด้วยความตั้งใจจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จตามที่หวังด้วยนะ

11
motor show 2025: Honda HR-V e:HEV ไมเนอร์เชนจ์ สเปคยุโรป ปรับหน้าใหม่ เพิ่มความปลอดภัย รถเงียบขึ้น

Honda HR-V e:HEV ในตลาดยุโรป ได้รับการเปลี่ยนโฉมไมเนอร์เชนจ์เป็นที่เรียบร้อยสำหรับโมเดลปี 2025 โดยมาพร้อมดีไซน์ที่ปรับเปลี่ยนเล็กน้อย และยังใช้ขุมพลังไฮบริด e:HEV ขับเคลื่อนล้อหน้าเช่นเคย
 

ภายนอกเปลี่ยนไปเล็กน้อย
 
สำหรับ Honda HR-V e:HEV โมเดลปี 2025 ไม่ได้เปลี่ยนไปจากโฉมเปิดตัวเมื่อปี 2021 มากนัก ในภาพรวมเราจะพบว่ามีเส้นนอนมากขึ้น เริ่มที่กระจังหน้าถูกดีไซน์ใหม่ ให้ความรู้สึกสงบเสงี่ยมมากขึ้น ช่องดักอากาศด้านล่างพร้อมกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ขณะเดียวกัน โคมไฟภายในดูเข้มขึ้นเล็กน้อยพร้อมการจัดไฟ LED ในโคมแบบใหม่ รวมถึงสีภายนอกใหม่ ได้แก่ Sage Green, Seabed Blue, และ Urban Grey
 
HR-V ใหม่สเปคยุโรปจะมีรุ่นท็อปใหม่ Advance Style Plus ที่จะมาพร้อมออพชั่นที่เหนือกว่า ได้แก่ หลังคาแก้วพานอรามิค, การตกแต่งภายนอกใหม่, กระจังหน้าสีดำเงา Crystal Black และล้ออัลลอย 18 นิ้วลายใหม่ 
 

เพิ่มประโยชน์ใช้สอยภายใน
 
สำหรับภายในของ 2025 HR-V e:HEV สเปคยุโรปยังคงใช้ดีไซน์ภายในแบบเดิม เราจะเห็นมาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว และจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 9 นิ้ว ส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปคือคอนโซลกลาง ซึ่งให้พื้นที่สำหรับแท่นชาร์จไร้สายมากขึ้นและปรับเปลี่ยนให้เข้าตามสรีรศาสตร์มากยิ่งขึ้นด้วย
 
นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งวัสดุซับเสียงเพิ่มเติม และให้ออพชั่น privacy glass มาให้เป็นมาตรฐาน ส่วนเบาะหลังยังคงเป็น Magic Seats (Ultra Seat) ที่สามารถพับได้หลายโหมดเหมือน City Hatchback ในบ้านเรา
 

เพิ่มระบบความปลอดภัยจาก Honda SENSING เดิม
 
ระบบความปลอดภัยของ 2025 HR-V ได้รับการปรับปรุงด้วยเช่นกัน ได้แก่ กล้อง 360 องศา (Multi View Camera System) และระบบ Traffic Jam Assist ซึ่งเป็นระบบที่ล้ำกว่าระบบช่วยให้อยู่ในเลน (LKAS) อีกขั้น เพราะทำงานได้ที่ความเร็วต่ำได้ด้วย
 
ส่วนระบบความปลอดภัย Honda SENSING อื่น ๆ ก็ยังมีให้อย่างครบครัน ซึ่งรวมถึง Blind Spot Monitoring
 
ขุมกำลังคล้ายบ้านเรา
 
ขุมกำลังของ 2025 HR-V สเปคยุโรป ยังใช้เครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV เช่นเคย มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ส่งกำลังด้วยเกียร์ e-CVT ให้กำลังรวมสูงสุด 129 แรงม้า (hp) ขับเคลื่อนล้อหน้า ขณะเดียวกัน HR-V สเปคญี่ปุ่นจะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร NA ให้เลือกด้วย
 

เริ่มขายเดือนนี้แล้วทั้ง EU และ UK
 
2025 Honda HR-V e:HEV รุ่นปรับโฉมสเปคยุโรปและสหราชอาณาจักร จะเริ่มจำหน่ายภายในเดือนกันยายนนี้ โดยราคาจะเปิดเผยภายหลัง มารอดูกันว่า HR-V ไมเนอร์เชนจ์สเปคไทยจะมีหน้าตาและออพชั่นแบบนี้หรือไม่

12
สินเชื่อรถแลกเงิน เปลี่ยนรถเป็นเงินไม่ยากอย่างที่คิด

สินเชื่อรถแลกเงิน เป็นสินเชื่อประเภทหนึ่งที่ใช้รถเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ หรือรถบรรทุก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินก้อนใหญ่ แต่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอื่น สินเชื่อรถยนต์แลกเงิน จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน โดยที่คุณยังมีรถไว้ใช้งาน ใช้ทำมาหากินได้ตามปกติ

10 ข้อควรรู้ก่อนขอสินเชื่อรถแลกเงิน

หลายคนคงรู้แล้วว่าสินเชื่อรถแลกเงินเป็นการเปลี่ยนรถเป็นเงิน แต่อาจไม่แน่ใจว่าตัวเองขอสินเชื่อได้มั้ย เงินติดล้อจะมาตอบทุกข้อสงสัย โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่หลายคนยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์แลกเงิน


1. สินเชื่อรถแลกเงินต่างกับเงินกู้ (สินเชื่อส่วนบุคคล) ยังไง?

การขอสินเชื่อทะเบียนรถ คือ การนำรถมาขอสินเชื่อกับผู้ประกอบการ หรือสถาบันทางการเงินต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องนำรถไปจอดทิ้งไว้ หลังจากอนุมัติผ่านไปแล้วเรายังสามารถครอบครอง และมีสิทธิ์ใช้งานรถได้ตามปกติ

ส่วนเงินกู้ (สินเชื่อส่วนบุคคล) เป็นสินเชื่อที่ผู้ขอกู้สามารถกู้เงินไปใช้ในวัตถุประสงค์อะไรก็ได้ โดยจะมีทั้งแบบที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ได้ สินเชื่อส่วนบุคคลที่ได้รับความนิยมนั้นจะเป็น สินเชื่อเงินสด และบัตรกดเงินสด ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน


2. สินเชื่อทะเบียนรถ ไม่โอนเล่มทะเบียนได้ไหม?

การโอนเล่มเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการทำสินเชื่อทะเบียนรถ เนื่องจากเป็นขั้นตอนหลักในการเปลี่ยนผ่าน หรือซื้อขายรถจากมือหนึ่งไปอีกมือหนึ่ง แต่ปัจจุบันผู้ประกอบการเปิดโอกาสให้ผู้ยื่นขอสินเชื่อ สามารถเลือกได้ว่าจะโอนเล่ม หรือไม่โอนเล่มก็ได้ สำหรับเงินติดล้อ ผู้ยื่นขอสินเชื่อรถแลกเงินไม่ต้องโอนเล่ม เพียงแค่ต้องใช้เล่มทะเบียนเป็นเอกสารประกอบการกู้ยืมเงิน เพื่อยืนยันกรรมสิทธิ์ของเจ้าของรถเท่านั้น ให้คุณขอสินเชื่อรถแลกเงินได้แบบไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน


3.ผ่อนสั้นผ่อนยาวคือยังไง ผ่อนได้นานแค่ไหน?

ผ่อนสั้นผ่อนยาวเป็นการเรียกย่อ ๆ ของการผ่อนระยะสั้น และการผ่อนระยะยาว ซึ่งตัวผู้ยื่นขอสินเชื่อกับเงินติดล้อสามารถเลือกได้ตามความต้องการ และกำลังทรัพย์ของตัวเอง ว่าเหมาะสมกับการผ่อนแบบไหน

    ถ้าเลือกผ่อนสั้น ตัวเลขหนี้ในแต่ละเดือนก็จะสูง แลกด้วยดอกเบี้ยที่น้อยลงเพราะเป็นการจ่ายเงินก้อนใหญ่ในระยะสั้น ๆ ทำให้หมดหนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้น เหมาะสำหรับผู้มีเงินเดือนประจำ และสามารถบริหารเงินของตัวเองได้อย่างมั่นคงในทุกเดือน
    ถ้าเลือกผ่อนยาว ตัวเลขหนี้ในแต่ละเดือนก็จะต่ำลง ตามมาด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น แลกกับระยะเวลาที่เราใช้ผ่อนที่มากขึ้น แน่นอนว่าอาจใช้เวลานานกว่าหนี้จะหมด แต่ก็จะไม่เป็นภาระหนักมากสำหรับการบริหารจัดการเงินรายเดือน การผ่อนระยะยาวเหมาะสำหรับอาชีพรับจ้าง ฟรีแลนซ์ รวมไปถึงบรรดาพ่อค้าแม่ขายที่ได้รับเงินแบบไม่คงที่มากนัก ต้องใช้เทคนิคในการจัดสรรเงินตัวเองในแต่ละเดือนมากพอสมควรสำหรับเงินติดล้อแล้ว ผู้ยื่นขอสินเชื่อสามารถเลือกผ่อนชำระยาว สูงสุดได้ถึง 60 เดือน ผ่อนได้สบาย ๆ ซึ่งถ้าคุณกำลังตัดสินใจ ไม่รู้ว่าควรใช้บริการสินเชื่อรถแลกเงินที่ไหนดี ให้ที่เงินติดล้อดูแลคุณ โดยคุณสามารถเลือกผ่อนชำระยาว สูงสุดได้ถึง 60 เดือน


4.รถเก่ายื่นขอสินเชื่อได้ไหม?

เก่าขนาดไหน สภาพเป็นยังไง แม้จะบอกว่าเปิดรับรถเก่าจริง แต่ไม่ใช่ทุกคันที่สามารถใช้ได้ตามข้อกำหนด

ในปัจจุบันทางสถาบันการเงินได้เปิดพิจารณารถเก่าอายุตั้งแต่ 15-20 ปีมาเป็นหลักฐานในการยื่นขอสินเชื่อแล้ว แน่นอนครับว่าขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น สภาพรถ ปีจดทะเบียน รวมไปถึงรายได้ของผู้ยื่นขอสินเชื่อเป็นหลัก

โดยทางเงินติดล้อจะพิจารณารถมอเตอร์ไซค์อายุไม่เกิน 15 ปี และรถยนต์อายุไม่เกิน 20 ปี รวมไปถึงรถบรรทุกอายุไม่เกิน 25 ปีด้วย


5.ต้องใช้ผู้ค้ำประกันไหม?

ในปัจจุบันทางผู้ประกอบการส่วนใหญ่ล้วนเปิดให้เลือกแล้วว่า การยื่นขอสินเชื่อในครั้งนี้ผู้ยื่นอยากให้มีผู้ค้ำประกันหรือไม่ อย่างไร เพื่อขยายขอบเขตของสินเชื่อทะเบียนรถให้เข้าถึงคนส่วนใหญ่มากขึ้นทั้งนี้ทั้งนั้นตัวผู้ประกอบการก็ยังคงใช้ข้อมูลของตัวผู้ยื่นขอสินเชื่อเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณา เป็นกรณี ๆ ด้วยเช่นกัน


6.ถ้าทะเบียนรถขาดจะยื่นขอสินเชื่อได้ไหม?

สำหรับการยื่นพิจารณาจะได้เป็นบางแห่งครับ ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว ก่อนทำสัญญาทางตัวสถาบันการเงินจะแนะนำให้มีการต่อทะเบียนเสมอ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานและในแง่ข้อกฎหมาย
 
ถ้าทะเบียนรถขาดจะยื่นขอสินเชื่อได้ไหม?

ส่วนที่เงินติดล้อเอง ก็รับพิจารณาเช่นกัน ถ้าทะเบียนรถขาดไม่เกิน 3 ปี โดยขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่ รวมถึงกฎเกณฑ์ของเงินติดล้อเป็นหลัก ถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อเงินติดล้อได้ตามช่องทางด้านล่างได้เลย


7.ใช้เวลานานไหมถึงจะอนุมัติ?

สำหรับการดำเนินการอนุมัติ เรื่องนี้ค่อนข้างที่จะหลากหลายขึ้นอยู่กับสถาบันทางการเงินและเอกสารที่ผู้ขอกู้มายื่นกู้ โดยมีตั้งแต่ได้รับเงินสดทันที จนกระทั่งถึง 2 วันส่วนของทาง เงินติดล้อ เรามีบริการให้เงินสดเป็นแสนทันทีที่สาขา ส่วนการโอนเงินจะดำเนินการภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากที่ได้รับการอนุมัติครับ


8.ถ้าสนใจจะต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง?

    เล่มทะเบียนรถตัวจริง
    บัตรประชาชน
    สำเนาทะเบียนบ้าน
    เอกสารแสดงรายได้ อาจจะเป็นรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน หรือสลิปเงินเดือนก็ได้ครับ หรือเอกสารแจ้งแหล่งที่มาของรายได้ถ้าเราเป็นพ่อค้าแม่ค้าหรือประกอบอาชีพส่วนตัว

ทั้งนี้ทั้งนั้นควรเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเพื่อความรวดเร็วในการพิจารณา ถ้าขาดเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งอาจทำให้การขอสินเชื่อล่าช้าได้ เพราะฉะนั้นเตรียมพร้อมไว้ก่อน ถือว่าดีที่สุด


9.ต้องเสียค่าธรรมเนียมไหม?

ค่าธรรมเนียมของการยื่นขอสินเชื่อจะแตกต่างกันแล้วแต่ผู้ประกอบการกำหนด รวมไปถึงโปรโมชัน และสิทธิพิเศษอีกด้วย สำหรับเงินติดล้อ คุณสามารถเข้าไปดูอัตราค่าธรรมเนียมทุกประเภทได้ที่นี่ (กดคลิกได้เลย) โดยจะมีการรวบรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งค่าปรับ ค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไว้อย่างครบถ้วน


10. สินเชื่อรถแลกเงินที่ไหนดี?

การจะเลือกใช้บริการสินเชื่อรถแลกเงินที่ไหนดี ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ประกอบกัน

    อัตราดอกเบี้ย เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยระหว่างผู้ให้บริการต่างๆ เลือกอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
    ระยะเวลาผ่อนชำระ ยิ่งระยะเวลาผ่อนชำระนาน ยิ่งลดภาระค่างวดผ่อนในแต่ละเดือนได้ แต่อย่าให้นานเกินไปเพราะจะทำให้เสียดอกเบี้ยมากขึ้นตามไปด้วย
    คุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้กู้ ผู้ให้บริการสินเชื่อแต่ละรายอาจมีข้อกำหนดแตกต่างกัน ควรพิจารณาให้เหมาะกับคุณสมบัติของตัวเอง
    ความสะดวกในการติดต่อและการให้บริการ ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีสาขา หรือช่องทางการติดต่อได้ง่าย ใกล้บ้าน หรือที่ทำงาน
    ความรวดเร็วในการอนุมัติสินเชื่อ กรณีต้องการใช้เงินด่วน อาจเลือกผู้ให้บริการที่ดำเนินการได้รวดเร็ว

สรุป การขอสินเชื่อรถแลกเงินไม่ยากอย่างที่คิด

ถ้าคุณต้องการขอสินเชื่อรถแลกเงินให้ผ่านไปอย่างราบรื่น ควรทำความเข้าใจเงื่อนไข และให้ความร่วมมือตลอดกระบวนการ พร้อมเตรียมเอกสารประกอบการขอสินเชื่อตามที่กำหนดให้ครบถ้วน ถ้ามีข้อสงสัยควรปรึกษา หรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อให้คุณเตรียมตัวขอสินเชื่อได้อย่างถูกต้องมากที่สุด จะช่วยเพิ่มโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายและไวขึ้น

13
อาหารสุขภาพช่วยเพิ่มพลังงาน กินก่อนออกกำลัง อาหารแบบไหน ช่วยเพิ่มความฟิต

การออกกำลังกายให้ประสบความสำเร็จอาจต้องการมากกว่าแค่ความทุ่มเท เพราะร่างกายก็ต้องการสารอาหารที่เหมาะสมเพื่อเติมพลังและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังด้วย อาหารที่เหมาะสมสามารถให้พลังงานได้ตลอดช่วงการออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มความทนทาน และช่วยในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ หากเราต้องการยกระดับประสิทธิภาพการออกกำลังกาย ทั้งเพื่อต้องการให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้มากขึ้นหรือต้องการความแข็งแรงมากขึ้น ลองเพิ่มการรับประทานอาหารบางชนิด จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นและช่วยให้เราฟื้นตัวได้เร็วขึ้นอีกด้วย


7 อาหารช่วยเพิ่มพลังงาน กินก่อนออกกำลัง

1. ข้าวโอ๊ต

     ข้าวโอ๊ตเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ดี โดยจะให้พลังงานอย่างช้า ๆ ซึ่งจะช่วยให้เรามีพลังงานตลอดการออกกำลังกาย ซึ่งนอกจากจะกินข้าวโอ๊ตแล้ว เรายังอาจเพิ่มผลไม้หรือถั่วเพื่อเพิ่มสารอาหารให้มากขึ้นได้อีกด้วย


2. มันเทศ

     มันเทศอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และยังเหมาะกับการเป็นอาหารก่อนออกกำลังกายที่ดี เพราะสามารถช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ได้


3. อกไก่

     โปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยซ่อมแซมและรักษามวลกล้ามเนื้อ อกไก่เป็นแหล่งโปรตีนที่มีไขมันน้อยซึ่งช้วยให้กรดอะมิโนที่จำเป็น และช่วยในการฟื้นตัวหลังออกกำลังกาย


4. กล้วย

     ผลไม้ที่นักกีฬาหลายคนชื่นชอบ กล้วยเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตและโพแทสเซียมที่ดี รวมถึงยังมีน้ำตาลจากธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มพลังงานได้ ในขณะที่โพแทสเซียมก็สามารถช่วยป้องกันการเป็นตะคริวได้ด้วย


5. บลูเบอร์รี่

     บลูเบอร์รี่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสามารถช่วยลดการอักเสบและลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่เกิดจากการออกกำลังกายหนัก ๆ


6. สตรอเบอร์รี่

     สตรอเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซี มีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน และยังมีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อ ซึ่งทั้งกกระดูกและข้อต่อถือเป็นสิ่งสำคัญในระหว่างการออกกำลังกาย


7. บีทรูท

     บีทรูทมีปริมาณไนเตรตสูง ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและการส่งออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อ รวมถึงยังอาจช่วยเพิ่มความทนทานได้

14
ดอกเบี้ยเงินฝาก หวย N3 คืออะไร เล่นยังไง ซื้อที่ไหน

หวย ลอตเตอรี่ เป็นวิธีเสี่ยงโชคยอดนิยมของคนไทยมานานมากแล้วนะคะ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มีแค่หวยหรือลอตเตอรี่แบบที่ขายกันเป็นใบๆ แผ่นๆ แล้ว เราสามารถซื้อหวยผ่านแอปฯ บนมือถือได้แบบง่ายๆ และสะดวกมากด้วย ล่าสุดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ทดลองระบบเปิดขายสลาก N3 สลากเลขท้าย 3 ตัว ซึ่งมีความคล้ายกับหวยใต้ดิน เรียกว่ายกระดับขึ้นมาขายบนดินกันดีกว่า วันนี้ไปทำความรู้จักสลาก N3 กันค่ะ คืออะไร ซื้อยังไง ราคาเท่าไหร่ รางวัลจะแจกแบบจุกๆ หรือเปล่า ใครเป็นสายเสี่ยงโชค ไปดูข้อมูลกัน...

✅ หวย N3 คืออะไร✅
สลากรูปแบบใหม่ มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคา และจูงใจให้คนหันมาซื้อสลากบนดินแทนหวยใต้ดิน โดยสลาก 1  ใบ ประกอบด้วยหมายเลข 3 หลัก ตั้งแต่ 000-999 สามารถเลือกเลขแต่ละหลักซ้ำกันได้ และไม่มีเลขอั้น ซึ่งสลาก 1 ใบ มีสิทธิ์ลุ้น 4 รางวัล ทุกงวดวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน ตามผลรางวัลตามสลากกินแบ่งรัฐบาลเลย
 
✅ ซื้อหวย N3 ที่ไหน✅
มีจำหน่ายที่ร้านค้าโครงการสลาก 80 ทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ กว่า 400 แห่งทั่วประเทศ ราคาใบละ 20 บาท โดยสามารถเช็กจุดจำหน่ายผ่านฯ เป๋าตัง หรือ คลิกที่นี่ ต้องบอกว่าไม่สามารถซื้อออนไลน์ผ่านแอปฯ เป๋าตังได้นะคะ ต้องไปที่ร้านค้าที่จำหน่ายเพื่อเลือกหมายเลข จากนั้นจึงใช้แอปฯ เป๋าตังชำระเงิน ซึ่งตัวเลขที่ซื้อจะเข้าไปอยู่ในแอปฯ เป๋าตัง เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานในการถูกรางวัลนั่นเอง
 

ตัวอย่างการเช็กจุดจำหน่ายสลากจากเว็บไซต์ tungngern
 
✅ รางวัลหวย N3 มีกี่รางวัล มูลค่าเท่าไหร่✅
แบ่งรางวัลออกเป็น 4 ประเภท
- รางวัล 3 ตัวตรง คือ เลขสลากฯ ทั้ง 3 หลักตรงกับผลการออกรางวัลสามตรง โดยจะอ้างอิงเลขท้าย 3 ตัวของรางวัลที่ 1 ของสลากหกหลัก
- รางวัล 3 ตัวสลับหลัก คือ เลขสลากฯ ตรงกับผลการออกรางวัลสามตรง แต่สลับหลัก

ตัวอย่างที่ 1
ㆍ รางวัลสามตรง คือ 123
ㆍ รางวัลสามสลับหลัก คือ 132 213 231 312 321
ตัวอย่างที่ 2
ㆍ รางวัลสามตรง คือ 122
ㆍ รางวัลสามสลับหลัก คือ 212 221
ตัวอย่างที่ 3
ㆍ รางวัลสามตรง คือ 222
ㆍ รางวัลสามสลับหลักจะไม่มีการออกรางวัล
- รางวัล 2 ตัวตรง คือ เลขสลากฯ มีเลขท้าย 2 หลักตรงกับผลการออกรางวัลสองตรงทั้ง 2 หลัก โดยจะอ้างอิงรางวัลเลขท้าย 2 ตัวของสลากหกหลัก
- รางวัลพิเศษ ทำการสุ่มรางวัลพิเศษจากสลากที่ถูกรางวัล 3 ตัวตรงเท่านั้น โดยจะออกรางวัลพิเศษหลังจากออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักเสร็จสิ้นในแต่ละงวด

เงินรางวัลเป็นแบบผันแปร โดยกำหนดสัดส่วนยอดจำหน่าย 60% เป็นเงินรางวัล ไม่น้อยกว่า 23% เป็นรายได้แผ่นดิน และไม่เกินกว่า 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร หากในงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะสมทบเงินรางวัลในงวดถัดไป แต่หากงวดถัดไปไม่มีผู้ถูกรางวัลอีก เงินรางวัลจะเป็นรายได้แผ่นดิน
- รางวัล 3 ตัวตรง ได้รับการจัดสรรเงินรางวัล 30% ของเงินรางวัลโดยรวม
- รางวัล 3 ตัวสลับหลัก ได้รับการจัดสรรเงินรางวัล 30% ของเงินรางวัลโดยรวม
- รางวัล 2 ตัวตรง รับการจัดสรรเงินรางวัล 39% ของเงินรางวัลโดยรวม
- รางวัลพิเศษ หรือแจ็กพอต มีสัดส่วนเงินรางวัล 1%
 
✅ ถูกหวย N3 รับรางวัลที่ไหน มีค่าธรรมเนียมมั้ย✅
หากถูกรางวัลจะได้รับการเตือนในแอปฯ เป๋าตัง และกดรับเงินผ่านแอปฯ ได้เลย โดยจะมีค่าอากรแสตมป์ 1 บาท ต่อเงินรางวัล 200 บาท 
 
✅ หวย N3 ดีจริงหรือ✅
ต้องบอกว่าตอนนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองจำหน่าย ซึ่งเพิ่งเริ่มจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 67 ที่ผ่านมานี่เอง ที่เห็นได้ชัดเลยก็เรื่องความยุ่งยากที่ต้องไปหาร้านขายสลาก และสแกนจ่ายผ่านแอปฯ เป๋าตัง อีกรอบนั่นเอง ก็ต้องดูกันต่อไปนะคะว่ามีการเปลี่ยนแปลงให้เป็นจำหน่ายแบบออฟไลน์หรือออนไลน์ 100% หรือเปล่า...

15
Doctor At Home: ผมร่วงจากการถอนผม

พบได้บ่อยในเด็กที่มีปัญหากดดันทางจิตใจด้วยสาเหตุต่าง ๆ เช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหาการเรียน เป็นต้น เด็กบางคนอาจถอนผมเล่นจนเป็นนิสัย โดยไม่มีปัญหาทางจิตใจก็ได้ (เรียกอาการนี้ว่า “Trichotillomania”)

สาเหตุ

เกิดจากผู้ป่วยถอนผมตัวเองเล่น จนผมร่วงหรือผมแหว่ง

เด็กบางคนอาจถอนผมเฉพาะตอนก่อนนอน ซึ่งจะพบว่ามีเส้นผมตกอยู่ตามหมอนทุกวัน เส้นผมเหล่านี้จะไม่มีต่อมรากผม


อาการ

หนังศีรษะบริเวณที่ผมร่วง จะไม่มีผื่นคัน หรือเป็นขุย และจะพบเส้นผมที่เป็นตอสั้น ๆ อยู่มาก เนื่องจากผู้ป่วยถอนออกไม่ถนัด


ภาวะแทรกซ้อน

ผู้ที่มีนิสัยถอนผมเป็นประจำอาจเกิดความรู้สึกอาย มีปมด้อย แยกตัว ไม่เข้าสังคม หากมีปัญหากดดันทางจิตใจ อาจหันไปสูบบุหรี่ หรือดื่มสุรา

บางรายอาจนำผมที่ถอนมาเคี้ยวกินเล่น ถ้ากินมาก ๆ อาจทำให้เกิดการอุดกั้นของกระเพาะและลำไส้ได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากประวัติและอาการที่ผู้ป่วยบอกเล่า และการตรวจพบหนังศีรษะบริเวณที่ผมร่วง ไม่มีผื่นคัน หรือเป็นขุย และพบเส้นผมที่เป็นตอสั้น ๆ

หากไม่แน่ใจ แพทย์จะทำการขูดเอาขุยที่หนังศีรษะ หรือเอาเส้นผมในบริเวณนั้นไปตรวจหาเชื้อรา หรือทำการตรวจเลือดหรืออื่น ๆ ตามสาเหตุที่สงสัย


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะอธิบายให้ผู้ปกครองทราบถึงสาเหตุ และหาทางห้ามปรามเด็กมิให้ถอนผมเล่น ถ้าหยุดถอน ผมก็จะขึ้นได้เอง

ในรายที่มีปัญหาทางจิตใจ อาจให้ยากล่อมประสาท (เช่น ไดอะซีแพม) และให้การรักษาด้วยวิธีทางจิตบำบัด


การดูแลตนเอง

หากสงสัย ควรปรึกษาแพทย์ และดูแลรักษาตามคำแนะนำของแพทย์


การป้องกัน

ในเด็กที่มีปัญหาด้านจิตใจ ควรปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อให้การรักษาทางจิตบำบัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมการถอนผมตัวเอง

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ผมร่วง ผมบาง จากสาเหตุอื่น ๆ

หน้า: [1] 2 3 ... 8
Tage: โฟสฟรี ประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี google โพสต์ฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ลงประกาศขายที่ดินฟรี ลงประกาศขายคอนโดฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google