ซ่อมบำรุงอาคาร: เคล็ดลับกำจัดเชื้อราบนผนัง !ปัญหาคราบเชื้อราบนผนัง ถือว่าเป็นปัญหากวนใจแม่บ้านหลายคน เพราะเวลาที่เราจะกำจัดออกไปนั้น ก็ยากซะเหลือเกิน เชื้อรา เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีอยู่ทั่วไปในอากาศ สามารถเจริญเติบโตและเกิดขึ้นในบริเวณที่มีความชื้นหรือที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก โดยเฉพาะภายในบ้านของเรา นอกจากนี้ เชื้อรายังเป็นสาเหตุการเกิดโรคต่าง ๆ ดังนั้น หากพบเชื้อราในบ้าน ควรกำจัดทันที โดยต้องคำนึงถึงวิธีการกำจัดเชื้อราเพื่อไม่ให้เชื้อรากลับมาอีก เพราะถ้าใช้วิธีการกำจัดไม่ถูกต้อง
แน่นอนว่าเชื้อราเหล่านั้นจะกลับมาทำร้ายสุขภาพของคนในบ้าน เพราะมันสามารถสร้างสปอร์ให้กระจายออกไปในอากาศ เมื่อสูดเข้าไปเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปริมาณมาก จะทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ คัดจมูก ระคายเคืองตา และก่อให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคหอบหืดและโรคปอดอักเสบ หากผู้ที่แพ้ราได้สัมผัสเชื้อรา ไม่ว่าจะทางผิวหนังหรือการสูดดมก็ตาม จะทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่าง ๆ เช่น ผื่นแพ้ ตาอักเสบ เจ็บคอ น้ำมูกไหลได้ ดังนั้นเราจะมาแนะนำวิธีการกำจัดเชื้อราบนผนัง ไม่ว่าจะเป็นผนังปูน หรือบนวอลเปเปอร์ของเรา ซึ่งเจ้าตัวเชื้อรานอกจากจะทำลายสุขภาพแล้ว ยังทำให้บ้านของเราดูเก่าและโทรมได้อีกด้วย
การกําจัดเชื้อราบนผนังและกำแพงให้หายไปโดยไม่กลับมาอีก เป็นสิ่งที่ควรรีบทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เช่นนั้นแล้วหากเชื้อราเข้ามาสะสมในร่างกายเป็นเวลานานจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพและส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อผู้ที่เป็นโรคหอบหืดหรือภูมิแพ้อยู่แล้ว ก่อนอื่นเราจะต้องสังเกตภายในบ้านของเราก่อนว่า มีบริเวณไหนมีความชื้นบ้าง เพราะหลายบริเวณในบ้าน มักเป็นพื้นที่สะสมความชื้นที่หลายคนมองข้าม เช่น ผนังที่อยู่ใกล้กับถังรองน้ำ ท่อน้ำในบ้าน ผนังห้องที่เกี่ยวข้องกับความชื้นอย่างห้องน้ำ ไปจนถึงผนังที่ติดเครื่องปรับอากาศหรือคอมเพรสเซอร์ บริเวณเหล่านี้ต่างก็เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อความชื้น ทำให้เกิดเชื้อราบนผนังได้ง่าย และในการกำจัดเชื้อราบนผนัง ควรขัดล้างหรือขูดสีผนังเดิมออกให้หมดก่อน จากนั้นทิ้งให้แห้ง 1-2 วัน จึงค่อยทาน้ำยาป้องกันเชื้อรา และทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 3 ชั่วโมง โดยไม่ต้องล้างออก ขั้นตอนสุดท้าย คือ ทาสีลงบนผนังจำนวน 2-3 รอบ
ทั้งนี้ ไม่ควรทาสีหรือแล็กเกอร์ทับผนังที่มีเชื้อราโดยตรง เพราะจะทำให้เชื้อรายังคงอยู่และไม่หายไปไหน สำหรับคราบเชื้อราบนวอลเปเปอร์ จะต้องลอกวอลเปเปอร์ของเก่าที่มีเชื้อราออกทั้งหมด เพราะหากทิ้งไว้ จะทำให้เชื้อราลามไปส่วนอื่นๆ ได้ และควรตรวจสอบบริเวณผนังว่ามีรอยรั่วและร้าวหรือไม่ โดยเฉพาะบริเวณที่มีท่อน้ำ เพราะบริเวณนี้จะมีความชื้นมากกว่าที่อื่น ซึ่งเป็นไปได้สูงที่จะเกิดเชื้อรา เมื่อตรวจเรียบร้อยแล้ว ให้ทิ้งไว้จนผนังแห้งสนิท จากนั้นนำกรดซาลิไซลิดผสมกับแอลกอฮอล์ในอัตราส่วน 1 ต่อ 5 และนำผ้ามาชุบไปเช็ดจนกว่าจะแน่ใจว่าสะอาด แล้วรอให้แห้งและติดวอลเปเปอร์ใหม่ได้ และอีกหนึ่งตำแหน่งที่เชื้อรามักจะสะสมอยู่ที่เราก็ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ บนเฟอร์นิเจอร์
ส่วนใหญ่เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นวัสดุจากไม้เนื้ออ่อน เมื่อมีความชื้นจะเสี่ยงต่อการขึ้นราอยู่แล้ว หากพบว่ามีเชื้อรา ควรนำมาล้างทำความสะอาดภายใน 1-2 วัน หลังจากนั้น ควรย้ายเฟอร์นิเจอร์ไปอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือที่ที่ได้รับแสงแดดส่องถึงประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วคอยดูว่ายังมีเชื้อราอยู่อีกหรือไม่ หากยังมีควรนำมาทำความสะอาดใหม่อีกครั้ง เพียงเท่านี้ บ้านของเราก็จะปราศจากเชื้อราที่เป็นภัยร้ายทำให้บ้านของเราดูไม่น่ามอง แถมยังเป็นปัญหาสุขภาพที่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้น เราควรดูแลรักษาบ้านของเราให้น่าอยู่ ให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของคนในบ้าน
ทางเราจึงเน้นย้ำมาตลอดว่า ในเรื่องของความสะอาดภายในบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญและดีต่อสุขภาพของคนในบ้าน โดยทางเรามีบริการรักษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทำงานให้สะอาด สะดวก และถูกสุขลักษณะ มีการพัฒนารูปแบบการทำความสะอาดให้เหมาะสมกับธุรกิจที่หลากหลายของลูกค้า ตรงเป้าหมาย เพราะเราให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ ความ สามารถ และมีทัศนคติที่ดีในการทำงานเพื่อที่จะส่งมอบบริการต่าง ๆให้กับ ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด