ผู้เขียน หัวข้อ: บริการด้านอาหาร: กินอย่างไรให้ห่างไกลนิ่วในไต!?  (อ่าน 48 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 132
    • ดูรายละเอียด
บริการด้านอาหาร: กินอย่างไรให้ห่างไกลนิ่วในไต!?

ในปัจจุบันคนไทยเรา เป็นโรคภัยไข้เจ็บมาก โดยเฉพาะโรคเบาหวาน โรคไต โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหาร พฤติกรรมการใช้ชีวิต ทั้งหมดนี้ล้วนมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ สิ่งที่สำคัญคือ ถ้าหากเรามีโรคภัยไข้เจ็บแล้ว เราควรดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของการรับประทานอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมถ้าหากเรารับประทานอาหารมาก จนระบบในร่างกายทำงานหนักก็จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้ง่ายนั่นเอง


วันนี้ทางเราจะมาพูดถึงเรื่องของการรับประทานอาหารอย่างถูกวิธีให้ห่างไกลจากโรคนิ่วในไต  ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายมาก โรคที่เกิดจากการสะสมของแร่ธาตุแข็งชนิดต่าง ๆ จนกลายเป็นก้อนแข็งที่มีชนิดและขนาดแตกต่างกัน โดยมักจะพบที่ไตบริเวณกรวยไตและระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นผลมาจากการปัสสาวะเข้มข้นมากและตกตะกอนเป็นนิ่ว ซึ่งนิ่วในไตมีโอกาสเป็นซ้ำได้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่เรารับประทานอาหารแคลเซียม โปรตีน เกลือ และน้ำตาล สูงมากเกินไป และดื่มน้ำน้อยเกินไป ส่วนมากจะมีอาการปวดท้องบริเวณบั้นเอว หรือท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่งเพียงข้างเดียว ปวดบิดๆ เกร็งๆ เป็นพักๆ คล้ายท้องเดิน หรือปวดประจำเดือน อาจปวดเป็นชั่วโมงๆ หรือปวดทั้งวันก็ได้ ปวดๆ หายๆ และจะมีอาการปวดไปเรื่อยๆ หากก้อนนิ่วไม่หลุดออกมา นอกจากนี้ อาจมีอาการใจหวิว ใจสั่น หรือคลื่นไส้ อาเจียน ร่วมด้วยได้ ดังนั้น การรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่เราไม่ควรละเลย

ซึ่งต้องบอกเลยว่า โรคนิ่วในไตสามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในผู้ชายมีโอกาสพบได้มากกว่าผู้หญิง และช่วงวัยที่พบส่วนใหญ่คืออายุ 30 – 40 ปี หากปล่อยทิ้งไว้นานไม่รีบรักษา อาจเกิดการติดเชื้อบ่อยจนเนื้อไตเสีย ไตเสื่อม และไตวายเรื้อรังได้ในอนาคต จึงควรรีบรักษาให้หายก่อนรุนแรง สำหรับการรับประทานอาหารของคนที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนิ่วในไตนั้น ควรดื่มน้ำในปริมาณมากๆ รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักกาดขาว ดอกกะหล่ำ มะระขี้นก ขิง เป็นต้น และควรเพิ่มการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียม หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดออกซาเลตสูง เช่น ช็อกโกแลต นมถั่วเหลือง หน่อไม้ ผักบางชนิด เป็นต้น ลดอาหารรสเค็มมากและหวานมาก


และถ้าหากต้องการที่จะรับประทานอาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์ก่อน อย่างไรก็ตาม อาการนิ่วในไต สามารถรักษาได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของนิ่ว ชนิดของนิ่ว และร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งสามารถรักษาได้โดยดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยขับก้อนนิ่วออกมาพร้อมปัสสาวะ ในกรณีที่นิ่วมีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร สามารถรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดเอานิ่วออกมา เช่น การใช้คลื่นเสียงสลายนิ่ว การส่องกล้อง การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ เป็นต้น ในขณะเดียวกัน


สำหรับผู้ที่เคยเป็นโรคนิ่วในไตควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารของตนเอง ลดการทานโซเดียม และลดโปรตีนจากเนื้อสัตว์ โดยเสริมโปรตีนจากพืช เช่น ถั่ว นม แทน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อนิ่วสูง อย่ากลั้นปัสสาวะ ควรปัสสาวะให้มากกว่า 2.5 ลิตรต่อวัน และเข้ารับการตรวจติดตามโรคทุกๆ 3 – 6 เดือน เพื่อป้องกันการเกิดนิ่วซ้ำ อย่างไรก็ตาม เราควรเริ่มดูแลตัวเองจากการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับร่างกาย และหากใครที่อยู่ในช่วงของภาวะการเจ็บป่วย ก็จะต้องระมัดระวังในเรื่องอาหารการกิน เพราะอาจจะทำให้โรคเกินความรุนแรงขึ้นได้

 
ดังนั้น ทางเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี มีร่างกายที่แข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ โดยเราเน้นย้ำเสมอว่า อาหารการกินเป็นเรื่องที่เราจะต้องคอยดูแล หรือเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยน์ เพราะการมีสุขภาพที่ดีนั้น เริ่มได้จากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญควรจะหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บด้วย ยิ่งในขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังน่าเป็นห่วงและเข้าขั้นวิกฤติ ทางที่ดีที่สุดเราควรดูแลสุขภาพ ล้างมือบ่อยๆ และสวมหน้ากากอนามัย เลือกรับประทานอาหารที่จะทำให้เราร่างกายแข็งแรง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยทำให้เรา ห่างไกลจากโรคได้และยังช่วยทำให้มีสุขภาพที่ดีด้วย

 

Tage: โฟสฟรี ประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี google โพสต์ฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ลงประกาศขายที่ดินฟรี ลงประกาศขายคอนโดฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google